JOB FIT

The personality–job fit theory assumes that examining a person's personality will give insight into their adaptability in an organization. Basically, how well they will fit in and work. By matching the right personality with the right company you can achieve a better synergy and avoid pitfalls such as high turnover and low job satisfaction.

Person–environment fit: Says that employees seek organisations that are good match for them (the Organizational culture appeals to them). They also stay committed to these organisations if the fit is 'good'.

The organisational competencies are defined in order to look at the requirements of the company which an individual is applying to. The Individual is then assessed on these competencies and the competency fitment between the individual and the company is found out.

The competencies can be assessed using various tools like psychological tests, competency based interview, situational analysis, etc.

If the Individual is found out to be good on competencies defined for the company using the various tools, we can say that the Individual would be able to adjust in the company environment and work culture and would be able to perform at his Optimum level, taking the performance to maximum level when required.

เปลี่ยนไป และไม่เหมือนเดิม

จริงๆแล้วมันอาจจะเป็นความคิดที่ผิดก็ได้
ที่คิดว่าวันหนึ่งถ้าเรากลับมาในพื้นที่ของเรา ช่วงเวลาเหล่านั้นจะย้อนกลับมา
แต่จริงๆแล้วเราว่ามันเป็นความคิดที่ผิดนะ

การที่เริ่มเก็บของเก็บทุกสิ่งทุกอย่าง วางของที่หยิบมาไว้ที่เดิม
และยกมันออกมาเพื่อนำมันกลับวางลงที่เดิมที่ๆมันเคยอยู่
สิ่งของมันอาจจะเหมือนเดิมได้ แต่ความรู้สึกมันคงไม่เหมือนเดิมแล้ว

การที่อยู่ด้วยกันมากขึ้นมันคงทำให้พูดกันน้อยลง
จนพอถึงเวลาที่ห่างกันมา มันจึงนึกไม่ออกว่าจะพูดคุยกันอย่างไรให้มากเหมือนเดิม
การที่คิดว่าเดี๋ยวก็ได้เจอหน้ากันก็คงไม่ใช่ ต่อไปคงเห็นแค่ผนังบ้านเปล่า

สงสัยว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปเหมือนกัน และไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปเช่นกัน

สำหรับผม ผมยังเชื่อนะ ว่าความรู้สึกอ่ะ มันยากที่จะมีเพิ่มขึ้น มันคงมีแต่น้อยลง
เพียงแค่ว่า จะลดลงมาก หรือน้อย ในแต่ละครั้งเท่านั้นเอง

เพราะเรื่องการปรับตัวมันก็คงต้องทำ แต่มันคงทำกันไปคนละทาง
เลยเป็นโอเวอร์ดีมาน โอเวอร์ซัพพลายนะ
สิ่งที่เราไม่ชอบ เขาก็ยังทำอยู่ เหมือนสิ่งที่เขาไม่ชอบ เราก็ยังทำอยู่

แต่อย่างว่าแหละว่าความอดทนคนเรามันมีขีดจำกัดนะ
ถ้าการที่อยู่ด้วยกัน แล้วไม่พูดกัน ทำนิ่งใส่กัน เราคิดว่าทำมีที่อยู่ของเรา
เราอยู่แบบนั้นก็ไม่มีใครมาทำเฉยใส่เรา เราสบายใจกว่า
เราก็ออกมาแค่นั้น

หรือเราเห็นแก่ตัวมากไป

Escape

บางทีอยากไปเที่ยวแค่2คน

ไม่ต้องมีคนอื่นอะ

ถ้ามาแล้วเจอแบบนี้ นอนอยู่บ้านอาจจะดีกว่าก็เป็นได้นะ

หรือจังหวัดไหนที่เทอไม่มีคนรูิจักอยู่ บอกฉันที

ฉันอยากไปเที่ยวที่นั่นจัง

midnight music tuning

จะตีหนึ่งแล้ว ยังนั่งฟังเพลงผ่าน youtube ไปเรื่อยๆ
เพลงเก่าๆ ช่วงปี 2004-2008 เป็นช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตมีความสุขช่วงนึงนะ
เพราะปัจจุบัน ถ้าฟังเกาหลีคงโดนด่าว่าติ่ง แต่เราฟังเพลงช้าๆนะ ที่พอรู้เป็นประโยค แต่ก็ดีออก
การวนฟังเพลงเก่าไปเรื่อยๆ นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ก็ดีเหมือนกัน

ทุกวันนี้เพลงที่ฟังส่วนใหญ่เป็นเพลงไทย เปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
เพลงไทยส่วนใหญ่ที่ฟังอยู่ก็คือฟังตามวิทยุในตอนขับรถเท่านั้น
เราร้องได้เกือบหมด แต่อย่าถามว่าใครร้อง หรือเพลงชื่ออะไร ไม่รู้หรอก

อยากมีเวลา กลับบ้านเปิดเพลงฟัง อัพเดทเพลงใหม่ๆ หรือนั่งอ่านหนังสือ อ่านบล๊อก
จริงๆเวลาก็มีแหละ แต่เราอาจจะใช้พลังงานไปกับงานจนไม่เหลือไม่ให้หาสิ่งเหล่านี้ใส่ตัวแล้วมั้ง
เวลาว่างของเราเลยหมดไปกับการนอน

หวังว่ามันคงเป็นเวลาอีกไม่นาน ที่เราจะไม่ต้องเป็นแบบนี้

... ไม่อยากให้มันเป็นแค่หวัง จริงๆ

love

ความรักที่ไร้เงื่อนไขนั้นยอมรับธรรมชาติที่ไม่ยั่งยืนของคนที่เรา "รัก"
เข้าใจว่ามนุษย์ย่อมเปลี่ยนแปลง
และยินดีที่จะปรับตัวเข้าหาความเปลี่ยนแปลงนั้นโดยปราศจากข้อเรียกร้อง
หรือแรงกดดันจากความเห็นแก่ตัว


...ถ้าทำได้จริงคงดีไม่น้อย

ทะเลาะ

ทะเลาะกันทุกวัน
เรื่องที่ทะเลาะกันมากที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องตื่น
วันไหนเราตื่นเช้า เขายังคงนอน
วันไหนเรานอน เขาดันตื่นเช้า

บางทีการอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย ยังกลายเป็นผิดสะงั้น

หรือเราเป็นคนที่เข้าใจยาก